บ้าน "สาวโสด"
จากคอลัมน์..สถาปนิกเรื่องมาก "คนรักบ้าน" คมชัดลึกอ.กฤษณพงษ์ เกียรติศักดิ์
บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Wallpaper
เดี๋ยว นี้คนแต่งงานกันช้าลง หรือไม่อยู่เป็นโสดมานานๆ เข้า เลยพานไม่แต่งเอาเสียดื้อๆ สังคมเราจึงมีสาวโสดให้เห็นกันมากมาย เป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวก็มีข้อดีอยู่มาก แต่ที่น่าระวังก็คือ
" บ้านสาวโสด" มักเป็นที่เพ่งเล็งของบรรดามิจฉาชีพทั้งหลาย เพราะเห็นว่าไม่มีผู้ชายมาคอยดูแลปกป้องจะทำอะไรก็ได้ บ้านสาวโสดจึงกลายเป็นสวรรค์ของเหล่าโจรชั่วไปโดยปริยาย "ความปลอดภัย" สำหรับบ้านสาวโสดจึงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับสังคมตัวใครตัวมันอย่างใน ปัจจุบันนี้
เริ่มกันตั้งแต่ภายนอก บ้าน "รั้ว" บ้านสาวโสดไม่ควร "สูง" หรือ "ทึบ" จนเกินไป น่าจะมีส่วนที่โปร่งบ้างเป็นช่วงๆ ใครไปใครมาด้อมๆ มองๆ ไม่เข้าท่าจะได้รู้ตัวเสียก่อน การสร้างกำแพงที่มิดชิดเพราะคิดว่าจะปลอดภัยจึงกลับกลายเป็นที่กำบังตาให้ เจ้าโจรร้ายกระทำการอย่างไรก็ได้ตามใจชอบโดยที่คนนอกบ้านไม่เห็นความผิดปกติ
นอก จากนี้ การออกแบบรายละเอียดและลวดลายต่างๆ ก็ต้องระวัง ไม่ให้กลายเป็นขั้นบันไดอำนวยความสะดวกสำหรับการปีนป่ายอีกด้วย ถ้าเป็นบ้านที่มีบริเวณ "การเลือกพันธุ์ไม้" มาปลูกก็ควรเป็นชนิดที่ไม่รก ดูแล้วโปร่งตา ไม่กลายเป็นที่ซ่อนกำบังให้ผู้ไม่หวังดี รวมทั้งไม่ควรปลูกไม้สูงใหญ่ไว้ใกล้กับตัวบ้าน เพราะจะกลายเป็นหนทางให้เจ้าโจรห้าร้อยปีนป่ายขึ้นไปถึงชั้นบนโดยไม่ต้อง พึ่งบันได รวมทั้งต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งก้านไม่ให้รกตาเกิดมุมอับขึ้นในบริเวณบ้านอยู่ เสมอ
"การให้แสงสว่าง" กับบริเวณภายนอกบ้านก็สำคัญมาก บางคนคิดว่ากลัวโจรก็เปิดไฟในบ้านให้สว่างไว้ก็ใช้ได้ ความจริงแล้วนั่นกลับกลายเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนภายนอกสอดส่องพฤติกรรม ของคนภายในบ้านได้อย่างสบายตา ถ้าจะลองกลับความคิดให้แสงสว่างกับบริเวณภายนอกบ้านให้สว่างไสวกว่าภายใน บ้าน นอกจากจะทำให้คนนอกบ้านไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวภายในบ้านแล้ว เมื่อเวลามีผู้บุกรุกหรือมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นนอกบ้าน คนในบ้านก็จะไหวตัวทันได้ก่อน
"โรงรถ" ของบ้านสาวโสดควรจะต้องมิดชิด เมื่อยามค่ำคืนถ้าจะต้องออกจากบ้านมาหยิบของในรถที่ลืมไว้จะได้ปลอดภัย การออกแบบให้โรงรถของบ้านสาวโสดสามารถเดินติดต่อถึงได้ภายในบ้านโดยไม่ ต้องออกมานอกบ้านจึงน่าจะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบ้านเมืองยามนี้
มา ถึง "ประตูบ้าน" เลือกกุญแจที่แข็งแรงแน่นหนาแล้วอย่าลืมสำรวจด้วยว่าติดตั้งถูกต้องหรือ เปล่า เพราะบางครั้งอาจจะมีช่องว่างระหว่างตัวบานกับวงกบให้งัดแงะเดือยสลักของ กุญแจได้ง่าย ประตูที่ดีวงกบต้องมี "บังใบ" ด้านนอกอาคารเพื่อป้องกันการงัดแงะกุญแจที่ว่านี้ด้วย วงกบของประตูก็ต้องมีความหนาพอดีกับกุญแจ ถ้ามีขนาดบางเกินไปเมื่อเจาะฝังกุญแจลงในบานหรือวงกบแล้ว บานหรือวงกบก็จะแตก บิ่น หักได้ง่ายไม่คงทนและปลอดภัย
ส่วน ที่เป็นบานประตูหรือหน้าต่างกระจก แนะนำว่าให้ใช้ "กระจกนิรภัย" ซึ่งจะมีความเหนียวและทนทานกว่ากระจกธรรมดา จะเจาะก็ยากกว่า เมื่อแตกก็ไม่ร่วงหล่นลงมา อย่างน้อยก็จะช่วยถ่วงเวลาโจรที่มักจะเจาะกระจกบริเวณใกล้ๆ กับลูกบิดหรือกลอนได้พักใหญ่ๆ
เรื่อง เส้นผมบังภูเขาอีกเรื่องก็คือ "บานพับ" การติดตั้งต้องซ่อนอยู่ระหว่างตัวบานกับวงกบ ไม่เช่นนั้นบางครั้งอุตส่าห์หากุญแจอย่างดีมาใช้ แต่โจรหัวเราะเพราะแค่ดึงสลักของบานพับออกก็เปิดประตูได้อย่างง่ายดายโดยไม่ ต้องออกแรงสักแอะเดียว
มาดูเรื่อง "เหล็กดัด" ซึ่งกลายเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านไปเสียแล้ว นอกจากจะเลือกลวดลายที่สวยงามไม่รกเปรอะแล้ว บางทีก็มาตายเอาตอนจบ เพราะการยึดเหล็กดัดเข้ากับตัวบ้านหรือวงกบไม่แข็งแรงพอ โดยอาจจะมีสาเหตุจากการใช้นอตใช้สกรูที่ "สั้น" เกินไป จำนวน "น้อย" เกินไป เหล็กดัดที่ทำเอาไว้เสียแน่นหนาก็เลยเป็นหมันช่วยอะไรไม่ได้
ราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ "สาวโสด" ไม่ควรมองข้าม ไม่ยากเย็นอะไรที่จะติดตั้งและตรวจสอบดูว่าบ้านของเราเป็นบ้าน "นิรภัย" แล้วหรือยัง แต่ถ้ายากเย็นนักล่ะก็ สละโสดหาชายหนุ่มมาเฝ้าบ้านให้จะง่ายกว่าไหมนี่?
จาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noomiki&month=10-2005&date=04&group=7&gblog=5
No comments:
Post a Comment