29 September 2008
งานวิจัยเรื่อง : ชีวิตของคนโสดในเมืองกรุง
งานวิจัยโดย บ. Nano Search เกี่ยวกับชีวิตคนโสดในเมืองกรุง ทำไว้อย่างน่าสนใจมากๆ เปรียบเทีียบพฤติกรรมการเดินทาง ระบบโทรศัพท์มือถือที่ใช้ , การใช้บัตรเครดิตของกลุ่มคนโสด , ความรู้สึกต่อชีวิตคนโสด , สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตโสด และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.nanosearch.co.th/product_pdf/430.pdf
เกี่ยวกับ บริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด
บริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการทางวิชาการแบบครบวงจรโดยมีกลุ่ม พันธมิตรร่วมอยู่ในการดำเนินงาน กล่าวคือการให้บริการด้านงานวิจัยด้านการบริหารจัดการ โครงการ ด้านงานที่ปรึกษา ด้านการฝึกอบรมและด้านการจัดงานโดยดำเนินการตาม ความต้องการให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เวปไซต์ http://www.nanosearch.co.th
24 September 2008
สาเหตุที่ผมยังไม่มีภรรยา
สาเหตุที่ผมยังไม่มีภรรยาเพราะว่า ...............
ผมสามารถเอ็นจอยxxxในราคาที่คุ้มค่า
เที่ยวทุกอาทิตย์ =2,000 x 4 = 8,000 บาท/เดือน
= 8000x12 = 96,000 บาท/ปี
เลือกได้ทุกรุ่น ทุกขนาด ใหม่ล่าสุดแกะกล่อง
ไม่มีข้อผูกพันใดๆ รับประกันคุณภาพและการบริการ
หาเมีย:
ต้นทุนระหว่างจีบ = 100,000 up
ต้นทุนดาวน์ = 300,000 บาท up
ค่าที่อยู่อาศัยให้ = 1,500,000 up
ค่าพาหนะ = 600,000 up
ค่าบำรุงรายเดือน = 50% ของเงินเดือน up
ไม่รวมค่าเสียเวลาและประสาทเสีย
จากการแทรกแซงและการไร้คุณภาพเป็นพักๆของผลิตภัณฑ์
ซื้อแล้วห้ามเปลี่ยน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์อื่นร่วม
ผลิตภัณฑ์มีอายุยืนยาว แต่คุณภาพเสื่อมทันทีที่ซื้อ
ผลิตภัณฑ์อาจเป็นสินค้ามือสอง แต่จำหน่ายในราคาเต็ม
คุณไม่มีสิทธิ์ครอบครองผลิตภัณฑ์ แต่ผลิตภัณฑ์มีสิทธิ์ครอบครอง
คุณและทุกสิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ ผลิตภัณฑ์เกิดแตกหน่อ รายได้ข้างต้น
ที่ว่ามาทั้งหมด ต้องหักออกอีก30% ของรายได้...
\\\\\\\"ภรยตามา ปรมา ทุกขา\\\\\\\" การมีภรรยา มีทุกข์อย่างยิ่ง
มีเมีย เหมือนมือถือ ................เป็นเหมือนสื่อคอยติดตาม
มีเมีย เหมือนมียาม ................คอยสอบถามยุ่มย่ามใจ
มีเมีย เหมือนมีบ้าน ................อยู่นานนานย่อมเบื่อได้
มีเมีย เหมือนมอ\\\\\\\'ไซค์ .............ซิ่งเร็วไปอาจเสี่ยงตาย
มีเมีย เหมือนมีรถ ..................ราคาหดเวลาขาย
มีเมีย เหมือนผีพราย ...............หากร่างกายไม่แต่งเติม
มีเมีย เหมือนม้าห้อ ................ควบไม่รอยามฮึกเหิม
มีเมีย เหมือนบัตรเสริม ...........ต้องคอยเติมเงินเรื่อยไป
มีเมีย เหมือนปีศาจ .................ยามอาละวาดน่าตกใจ
มีเมีย เหมือนมีไห ..................ปลาร้า....ใส่หลายร้อยปี
มีเมีย เหมือนมีคอมพ์ ..............ต้องคอยซ่อมบ่อยเหลือที่
มีเมีย เหมือนปลากระดี่ ............ได้น้ำดีก็จากไป
มีเมีย เหมือนดั่งเสือ ................ขย้ำเหยื่อจะเหลือไร
มีเมีย เหมือนกรรไกร........ ตัดทีไรขาดทุกที
มีเมีย ชอบจ่ายดะ .....................ซื้อไม่ละ..นะคุณพี่
มีเมีย ชอบเซ้าซี้ .......................บ่นทุกทีที่เจอกัน
มีเมีย ละเฮี่ยใจ.................. แล้วทำไมชอบมีกัน
มีเมีย ไม่สร้างสรรค์ ...................จำให้มั่น อย่ามีเมีย
จาก http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1153047
17 September 2008
09 September 2008
บ้าน "สาวโสด"
บ้าน "สาวโสด"
จากคอลัมน์..สถาปนิกเรื่องมาก "คนรักบ้าน" คมชัดลึกอ.กฤษณพงษ์ เกียรติศักดิ์
บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Wallpaper
เดี๋ยว นี้คนแต่งงานกันช้าลง หรือไม่อยู่เป็นโสดมานานๆ เข้า เลยพานไม่แต่งเอาเสียดื้อๆ สังคมเราจึงมีสาวโสดให้เห็นกันมากมาย เป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวก็มีข้อดีอยู่มาก แต่ที่น่าระวังก็คือ
" บ้านสาวโสด" มักเป็นที่เพ่งเล็งของบรรดามิจฉาชีพทั้งหลาย เพราะเห็นว่าไม่มีผู้ชายมาคอยดูแลปกป้องจะทำอะไรก็ได้ บ้านสาวโสดจึงกลายเป็นสวรรค์ของเหล่าโจรชั่วไปโดยปริยาย "ความปลอดภัย" สำหรับบ้านสาวโสดจึงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับสังคมตัวใครตัวมันอย่างใน ปัจจุบันนี้
เริ่มกันตั้งแต่ภายนอก บ้าน "รั้ว" บ้านสาวโสดไม่ควร "สูง" หรือ "ทึบ" จนเกินไป น่าจะมีส่วนที่โปร่งบ้างเป็นช่วงๆ ใครไปใครมาด้อมๆ มองๆ ไม่เข้าท่าจะได้รู้ตัวเสียก่อน การสร้างกำแพงที่มิดชิดเพราะคิดว่าจะปลอดภัยจึงกลับกลายเป็นที่กำบังตาให้ เจ้าโจรร้ายกระทำการอย่างไรก็ได้ตามใจชอบโดยที่คนนอกบ้านไม่เห็นความผิดปกติ
นอก จากนี้ การออกแบบรายละเอียดและลวดลายต่างๆ ก็ต้องระวัง ไม่ให้กลายเป็นขั้นบันไดอำนวยความสะดวกสำหรับการปีนป่ายอีกด้วย ถ้าเป็นบ้านที่มีบริเวณ "การเลือกพันธุ์ไม้" มาปลูกก็ควรเป็นชนิดที่ไม่รก ดูแล้วโปร่งตา ไม่กลายเป็นที่ซ่อนกำบังให้ผู้ไม่หวังดี รวมทั้งไม่ควรปลูกไม้สูงใหญ่ไว้ใกล้กับตัวบ้าน เพราะจะกลายเป็นหนทางให้เจ้าโจรห้าร้อยปีนป่ายขึ้นไปถึงชั้นบนโดยไม่ต้อง พึ่งบันได รวมทั้งต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งก้านไม่ให้รกตาเกิดมุมอับขึ้นในบริเวณบ้านอยู่ เสมอ
"การให้แสงสว่าง" กับบริเวณภายนอกบ้านก็สำคัญมาก บางคนคิดว่ากลัวโจรก็เปิดไฟในบ้านให้สว่างไว้ก็ใช้ได้ ความจริงแล้วนั่นกลับกลายเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนภายนอกสอดส่องพฤติกรรม ของคนภายในบ้านได้อย่างสบายตา ถ้าจะลองกลับความคิดให้แสงสว่างกับบริเวณภายนอกบ้านให้สว่างไสวกว่าภายใน บ้าน นอกจากจะทำให้คนนอกบ้านไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวภายในบ้านแล้ว เมื่อเวลามีผู้บุกรุกหรือมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นนอกบ้าน คนในบ้านก็จะไหวตัวทันได้ก่อน
"โรงรถ" ของบ้านสาวโสดควรจะต้องมิดชิด เมื่อยามค่ำคืนถ้าจะต้องออกจากบ้านมาหยิบของในรถที่ลืมไว้จะได้ปลอดภัย การออกแบบให้โรงรถของบ้านสาวโสดสามารถเดินติดต่อถึงได้ภายในบ้านโดยไม่ ต้องออกมานอกบ้านจึงน่าจะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบ้านเมืองยามนี้
มา ถึง "ประตูบ้าน" เลือกกุญแจที่แข็งแรงแน่นหนาแล้วอย่าลืมสำรวจด้วยว่าติดตั้งถูกต้องหรือ เปล่า เพราะบางครั้งอาจจะมีช่องว่างระหว่างตัวบานกับวงกบให้งัดแงะเดือยสลักของ กุญแจได้ง่าย ประตูที่ดีวงกบต้องมี "บังใบ" ด้านนอกอาคารเพื่อป้องกันการงัดแงะกุญแจที่ว่านี้ด้วย วงกบของประตูก็ต้องมีความหนาพอดีกับกุญแจ ถ้ามีขนาดบางเกินไปเมื่อเจาะฝังกุญแจลงในบานหรือวงกบแล้ว บานหรือวงกบก็จะแตก บิ่น หักได้ง่ายไม่คงทนและปลอดภัย
ส่วน ที่เป็นบานประตูหรือหน้าต่างกระจก แนะนำว่าให้ใช้ "กระจกนิรภัย" ซึ่งจะมีความเหนียวและทนทานกว่ากระจกธรรมดา จะเจาะก็ยากกว่า เมื่อแตกก็ไม่ร่วงหล่นลงมา อย่างน้อยก็จะช่วยถ่วงเวลาโจรที่มักจะเจาะกระจกบริเวณใกล้ๆ กับลูกบิดหรือกลอนได้พักใหญ่ๆ
เรื่อง เส้นผมบังภูเขาอีกเรื่องก็คือ "บานพับ" การติดตั้งต้องซ่อนอยู่ระหว่างตัวบานกับวงกบ ไม่เช่นนั้นบางครั้งอุตส่าห์หากุญแจอย่างดีมาใช้ แต่โจรหัวเราะเพราะแค่ดึงสลักของบานพับออกก็เปิดประตูได้อย่างง่ายดายโดยไม่ ต้องออกแรงสักแอะเดียว
มาดูเรื่อง "เหล็กดัด" ซึ่งกลายเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านไปเสียแล้ว นอกจากจะเลือกลวดลายที่สวยงามไม่รกเปรอะแล้ว บางทีก็มาตายเอาตอนจบ เพราะการยึดเหล็กดัดเข้ากับตัวบ้านหรือวงกบไม่แข็งแรงพอ โดยอาจจะมีสาเหตุจากการใช้นอตใช้สกรูที่ "สั้น" เกินไป จำนวน "น้อย" เกินไป เหล็กดัดที่ทำเอาไว้เสียแน่นหนาก็เลยเป็นหมันช่วยอะไรไม่ได้
ราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ "สาวโสด" ไม่ควรมองข้าม ไม่ยากเย็นอะไรที่จะติดตั้งและตรวจสอบดูว่าบ้านของเราเป็นบ้าน "นิรภัย" แล้วหรือยัง แต่ถ้ายากเย็นนักล่ะก็ สละโสดหาชายหนุ่มมาเฝ้าบ้านให้จะง่ายกว่าไหมนี่?
จาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noomiki&month=10-2005&date=04&group=7&gblog=5